ถืออยู่ในมือท่านฉบับนี้คือ หนังสือพิมพ์แนวหน้า www.naewna.comทุกบรรทัด ตรงไป ตรงมา...
nn เดินสายพบสื่อมวลชน หลายวันรวมทั้งการมาเยือนกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์แนวหน้าของบิ๊กตู่- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ส่งสัญญาณ “I LOVE YOU” ท่ามกลางเสียงปรบมือกึกก้องให้กำลังใจท่านนายกฯในการทำงานบริหารประเทศ ไม่น้อยกว่าอดีตนายกฯท่านอื่นๆ...
nn โปรดทราบ ขณะนี้ทางรัฐบาลเริ่มขับเคลื่อนการใช้งบประมาณเงินกู้เพื่อสู้โควิดตาม พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อแก้ปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2563...
nn โดย “บิ๊กตู่” บอกว่า ในระยะแรกจะเน้นหนักด้านการเกษตรก่อน เพื่อสร้างความเข้มแข็งภาคประชาชน ในส่วนนักธุรกิจ เอสเอ็มอี เป็นอีกเรื่องที่จะทยอยมีมาตรการออกมาตามลำดับ ซึ่งจะเป็นมาตรการให้เกิดความเหมาะสมในการที่จะให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตได้ในช่วงนี้...
nn ทั้งนี้ในเรื่องของงบฯฟื้นฟูระยะแรกไม่เกิน 1 แสนล้านบาท ส่วนระยะที่ 2มีอีก 3 แสนล้านบาท ซึ่งในช่วงนี้กำลังดำเนินการในส่วนที่ได้รับความเดือดร้อนมากที่สุดก่อน และทยอยดำเนินการในระยะต่อไป...
nn โดยจะใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง รวมถึงต้องระมัดระวังการตรวจสอบจากภาคประชาชน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องกวดขันเข้มงวดในเรื่องเหล่านี้...
nn ด้าน ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ก็ได้ลงรายละเอียดว่า สำหรับ 5 โครงการ ที่ผ่านการอนุมัติ จาก ครม. ประกอบด้วย โครงการภายใต้แผนงานสร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจฐานราก จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการ 1 ตำบล 1 กลุ่ม เกษตรทฤษฎีใหม่ และ 2.โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา” โมเดล...
nn “และโครงการภายใต้แผนงานสร้างความเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการพัฒนาธุรกิจบริการดินและปุ๋ยเพื่อชุมชน2. โครงการพื้นที่ท่องเที่ยวปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว (Safety Zone) และ 3.โครงการพัฒนาศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้ด้านสัตว์ป่า” ส่วนที่เหลืออีก 181 โครงการ จะทยอยเข้าสู่ ครม.เพื่ออนุมัติงบประมาณเพื่อดำเนินการในครั้งถัดไป...
nn “มือปราบ” ต้องขอให้บรรดากระทรวง กรม หรือหน่วยงานที่ได้รับงบประมาณจาก พ.ร.ก.ไปนั้น ต้องตระหนักให้มากๆ ถึงการใช้จ่ายที่คุ้มค่าและโปร่งใสไร้การทุจริต เพราะนอกจากมีกระบวนการในสภา ที่มีการตรวจสอบโดย กมธ. วิสามัญ โดยเฉพาะ ซึ่งมี ไพบูลย์ นิติตะวัน เป็นประธานและ สส. อีกกว่า 40 คน เป็นกรรมการแล้ว ยังต้องรับการตรวจสอบจากภาคประชาชนอีกด้วย...
nn ส่วนอีกโครงการหนึ่ง ซึ่ง“มือปราบ” โหมโรงไปหลายสัปดาห์นั่นก็คือ “โครงการเที่ยวปันสุข” ซึ่งจะมีกำหนดการให้ประชาชนลงทะเบียน 15 กรกฎาคมนี้ ...
nn ทั้งนี้ มีผู้เกี่ยวข้องให้ความเห็นจำนวนมาก เช่น ยุทธศักดิ์สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ยืนยันว่ามีความพร้อมที่จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปลงทะเบียนรับสิทธิ์ทางเว็บไซต์ ซึ่งจะเป็นโครงการที่จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจไตรมาส 3 ปีนี้...
nn อย่างไรก็ตาม ขอเน้นย้ำการท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบใดก็ตามต้องอยู่ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาด โควิด-19 การ์ดไม่ตก...
nn ด้าน ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินว่า โครงการเที่ยวปันสุข วงเงิน 2.24 หมื่นล้านนั้น จะทำให้มีเงินสะพัดเข้าสู่ระบบช่วง 6 เดือนสุดท้ายของปี 2563 นี้ ประมาณ 3-5 หมื่นล้านบาท แต่ต้องขึ้นกับพฤติกรรมการท่องเที่ยวของคนไทยด้วย...
nn ส่วน ชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โครงการดังกล่าว จะมีประชาชนสนใจลงทะเบียนจำนวนมาก ซึ่งจะเป็นผลดีต่อภาคการท่องเที่ยว เพราะช่วยกระตุ้นให้การท่องเที่ยวไทยกลับมาฟื้นตัวหลังหยุดชะงักในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า การท่องเที่ยวทางภาคเหนือจะได้รับความสนใจมากที่สุด เนื่องจากเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น และมีจังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยวจำนวนมาก...
nn สำหรับวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เสนอว่า “ในการดำเนินงานต่อไปของภาครัฐบาล ควรเร่งพิจารณาแนวทางการจับคู่ท่องเที่ยวระหว่างกัน (Travel Buble)กับประเทศที่มีความเสี่ยงโควิด-19 ต่ำ และมีการกำหนดโปรแกรมท่องเที่ยวแบบตายตัว มีมาตรการควบคุมดูแล และมีใบรับรองแพทย์ถึงการไม่ติดเชื้อโควิด-19 โดยมีการซื้อประกันก่อนการเดินทาง พร้อมตรวจหาเชื้อซ้ำที่เมืองไทยอีกครั้งเพื่อเปิดทางให้ธุรกิจท่องเที่ยวไทยได้ทำมาหากิน ให้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือฟื้นฟูเศรษฐกิจต่อไป”...
nn “มือปราบ” เชื่อแน่ๆ ว่า ในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ ประชาชนต่างเฝ้าหน้าจอกันอย่างไม่กะพริบเพราะต้องการใช้สิทธิ์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ดังนั้น ต้องขอร้องทีมงานเว็บไซต์ อย่าทำให้ระบบล่มเป็นอันขาด...
nn บรรทัดนี้อยากจะเสนอให้ทางการกีฬาแห่งประเทศไทย (กทท.) ซึ่งมี ก้องศักด ยอดมณี เป็นผู้ว่าการ นั้น ช่วยพิจารณาปลดล็อก กิจกรรมการจัดงานวิ่งในจังหวัดต่างๆ เพราะปัจจุบันนี้ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเป็นที่นิยมกันอย่างมากในช่วงก่อนโควิด-19 ระบาด...
nn ดังนั้น จึงอยากให้มีการคลายล็อก เพื่อให้เป็นการเสริมซึ่งกันและกันและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องสามารถเดินหน้ากันต่อไปได้...nn สวัสดีครับ
มือปราบ
"การมา" - Google News
July 12, 2020 at 02:00AM
https://ift.tt/2W9mS48
คอลัมน์การเมือง - บุคคลแนวหน้า : 12 กรกฎาคม 2563 - หนังสือพิมพ์แนวหน้า
"การมา" - Google News
https://ift.tt/3cm7t5w
Home To Blog
No comments:
Post a Comment