Pages

Friday, August 7, 2020

‘แมตช์ของตำนาน และการพัฒนารากหญ้า’ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มุ่งรุกตลาดอินเดีย - Goal.com

buahasema.blogspot.com

สโมสร โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ นอกจากจะมีฐานแฟนคลับกระจายอยู่ทั่วโลกแล้ว การเสาะหานักเตะดาวรุ่งพรสวรรค์เข้าสู่ทีมถือว่าเป็นอีกจุดเด่นหนึ่งของสโมสร

ยักษ์ใหญ่จากบุนเดสลีก้าเยอรมัน มีฐานแฟนคลับในทวีปเอเชียที่เหนียวแน่นอาทิใน มาเลเซีย, จีน หรือแม้กระทั่งสิงคโปร์ อย่างไรก็ตาม ประเทศ อินเดีย ยังเป็นเป้าหมายที่ดอร์ทมุนด์ให้ความสำคัญ โดยเฉพาะเหล่าแฟนบอล

แล้วสโมสรมีแผนสำหรับรุกตลาดในประเทศอินเดียหรือไม่ ?

ซูเรช เลทช์มานัน กรรมการผู้จัดการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก สโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เผยว่าสโมสรมีแผนที่จะจัดแมตช์ฟาดแข้งของตำนานที่อินเดีย 

แม้ว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 ที่อาจสร้างความวิตกกังวลใจให้นักเตะ แต่ ซูเรช ยังคงมั่นใจว่าแมตช์ดังกล่าวจะสามารถจัดการแข่งขันที่อินเดียได้ เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น 

“ผมคงไม่พูดว่าการเจอกับวิกฤตทำให้เราหันมาสนใจเกี่ยวกับการกิจกรรมการตลาดมากขึ้น แต่กิจกรรมร่วมกับแฟนๆถือเป็นหลักใหญ่ใจความสำคัญแรกๆของสโมสรอยู่แล้ว เรามีกิจกรรมมากมายที่จัดขึ้นให้แฟนๆอย่างที่ กัมพูชา, อินเดีย และ มองโกเลีย และมันจะไม่เปลี่ยนแปลงไป”

“สำหรับตลาดอินเดีย เรามีแผนที่จะจัดแมตช์ตำนาน แม้จะยังทำไม่ได้ในตอนนี้ แต่ผมก็ยังมั่นใจว่าเราจะสามารถทำได้ และพาทีมมาที่อินเดีย ประเทศที่ฟุตบอลเติบโตขึ้นอย่างมาก เรายังได้ถามไปยังผู้พาร์ทเนอร์ของเราอย่าง Evonik’s และ W1 Sports ที่อยากจะร่วมพัฒนาฟุตบอลในระดับรากหญ้าในอินเดียและทำให้เด็กๆที่นี่เล่นฟุตบอลในแนวทางของดอร์ทมุนด์” 

“ในตอนนี้ทั้งที่จีน, ญี่ปุ่น รวมไปถึง สิงคโปร์ ถือว่าเป็นหัวใจของการทำการตลาด เรามีออฟฟิศของเราที่จีน และสิงคโปร์ ที่จะช่วยเราทำกิจกรรมต่างๆมากขึ้น สำหรับอินเดียเป็นตลาดที่เราจะพยายามที่จะทำให้เติบโตขึ้น เรามีความคิดที่จะจัดแมตช์ตำนานในเมืองใดเมืองหนึ่งที่อินเดียและผมมั่นใจว่าจะเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นแน่นอน” เขากล่าว 

เสือเหลืองถือว่าเป็นสโมสรที่ขึ้นชื่อเรื่องการมองหานักเตะเยาวชนพรสวรรค์สูงเข้าสู่ทีม และปั้นจนกลายเป็นนักเตะที่ทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปทีมอื่นๆให้ความสนใจ 

โรมัน ไวเดอร์เฟลเลอร์

อะไรคือหัวใจของการทำงานของดอร์ทมุนด์ในตลาดซื้อขายนักเตะ ?

เบเนดิกท์  ชูลซ์ ผู้อำนวยการด้านธุรกิจระหว่างประเทศได้เผยว่าวิกฤตทางด้านการเงินในปี 2005 ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในตลาดซื้อขายนักเตะ 

15 ปีก่อน ทีมตกเป็นหนี้ราว 100 ล้านปอนด์ และมีภาระต้องชดใช้ให้แก่เจ้าหนี้ทำให้ไม่สามารถซื้อดาวดังเข้ามาร่วมทีมได้ ทำให้ทีมหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนานักเตะเยาวชน และการซื้อนักเตะเยาวชนได้ส่งผลดีในระยะยาวทำให้สโมสรไม่มีแผนการที่จะเปลี่ยนแปลงนโยบายอะไรในตอนนี้ 

ส่วน CEO ของสโมสรอย่าง ฮานส์ โยอาคิม วาทซ์เกอ นั้นมีความระมัดระวังเรื่องกฏทางด้านการเงิรอย่างมาก ซึ่ง เบเนดิกท์  ชูลซ์ ยืนยันว่านโยบายด้านนี้จะยังม่ีต่อไป ทีมยังมีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้ากับนักเตะดาวรุ่งที่จะเป็นกุญแจไปสู่ความสำเร็จในตลาดนักเตะของทีม 

“ผมคิดว่ามันเป็นการรวมกันของปัจจัยหลายอย่าง อย่างแรกเลยคือวิกฤตทางด้านการเงินของสโมสรที่เราผ่านมาได้เมื่อปี 2005 เราไม่มีเงินทุนสำหรับนักเตะชื่อนัก หรือนักเตะที่มีประสบการณ์ในระดับยุโรป มันทำให้เราจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับนักเตะดาวรุ่งที่จะพัฒนาตัวเองขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ได้” เขากล่าว 

“มันเป็นการรักษาสถานะของสโมสรในระดับท็อปเอาไว้ เรอินฮาร์ด ราอูบอลล์ ที่เคยเป็นประธานสโมสรของเรา และ  ฮานส์ โยอาคิม วาทซ์เกอ CEO เคยผ่านช่วงวิกฤตการเงินมาและช่วยให้เราผ่านมันมาได้ เรายังมี มิคาเอล ซอร์ก ที่เป็นผู้อำนวยกีฬาการมาอย่างยาวนาน และเรายังมี ลาร์ส ริคเค่น อดีตนักเตะที่ตอนนี้เป็นหัวหน้าฝ่ายอคาเดมี่ของสโมสร”

“ปัจจัยเหล่านี้ทำให้เรามุ่งเป้าหมายไปที่เยาวชนของเราและให้เวลาพวกเขาในสนามอย่างเต็มที่ ดูตัวอย่างได้จาก จาดอน ซานโช่ เขามาจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และเข้ามาร่วมทีมชุดใหญ่ของเราแค่ปีเดียวหลังจากย้ายมา นี่คือสิ่งที่หลายๆสโมสรในยุโรปไม่สามารถให้กับนักเตะดาวรุ่งได้ หรือว่านักเตะพรสวรรค์อย่าง จู๊ด เบลลิ่งแฮม ที่เพิ่งย้ายมา จิโอวานนี่ เรย์น่า นักเตะชาวอเมริกันที่ขึ้นชุดใหญ่เมื่อฤดูกาลที่แล้ว” 

สำหรับคำถามว่าการขายนักเตะระดับแถวหน้าของทีมหลังจากโชว์ฟอร์มได้ดีส่งผลกระทบในการลุ้นแชมป์ ยูฟ่าแชมป์เปี้ยส์ลีก มากแค่ไหน ? ซึ่ง เบเนดิกท์ ชูลซ์  ยังเชื่อว่าการทำเช่นนั้นจะไม่ส่งผลกระทบใดๆกับสโมสร 

นอกจากนี้ยังกล่าวถึงการพัฒนานักเตะเยาวชนในทีมท่ีทำให้ดอร์ทมุนด์กลายเป็นเป้าหมายที่นักเตะดาวรุ่งหลายๆคนต้องการมาร่วมงานด้วย

จาดอน ซานโช

อ่านบทความต่อด้านล่าง

“เราไม่รู้สึกว่าการขายนักเตะจะเป็นจุดอ่อนของเราในแชมเปี้ยนส์ลีก เราพลาดการลงเล่นในรายการนั้นแค่ 1 ครั้งตลอดช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เราผ่านเข้ารอบ 16 ทีมได้ประจำแม้ว่าจะต้องเจองานที่ยากบ้าง” 

“เราไม่สนใจว่านักเตะจะอายุเท่าไร เราไม่สนใจเลยว่า จาดอน ซานโช่ จะอายุ 19 หรือ 21 หรือว่า 27 ปี ถ้าเขาเป็นนักเตะที่ดีเขาจะได้โอกาสลงเล่น นี่คือสิ่งหนึ่งที่เป็นแนวทางและสามารถที่จะโน้มน้าวใจให้นักเตะดาวรุ่งอยากที่จะย้ายมาร่วมงานกับเรา”

“เราไม่ซื้อซูเปอร์สตาร์ เราซื้อดาวรุ่งและเปลี่ยนให้พวกเขากลายเป็นซูเปอร์สตาร์ เราคิดว่าเราทำหน้าที่นั้นได้ดี และเราไม่เคยคิดว่าเราทำให้ทีมของเราแย่ลงเมื่อจะต้องขายนักเตะ”

Let's block ads! (Why?)



"การมา" - Google News
August 07, 2020 at 05:01PM
https://ift.tt/2DtGTMC

‘แมตช์ของตำนาน และการพัฒนารากหญ้า’ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มุ่งรุกตลาดอินเดีย - Goal.com
"การมา" - Google News
https://ift.tt/3cm7t5w
Home To Blog

No comments:

Post a Comment