โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกมาต่อต้านการ "คว่ำบาตรคนดัง" ของบรรดาผู้ที่โค่นทำลายรูปปั้นตามอนุสาวรีย์ต่าง ๆ ในช่วงการประท้วงต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติเมื่อเร็ว ๆ นี้ผ่านการปราศรัยในงานเฉลิมฉลองวันชาติสหรัฐฯ ที่เขารัชมอร์
เขากล่าวประณามผู้ร่วมประท้วงที่มุ่งทำลายรูปปั้นผู้นำต่าง ๆ ว่าเป็น "มวลชนที่เกรี้ยวกราด"
นายทรัมป์เรียกการชุมนุมเรียกร้องสิทธิ์ความเท่าเทียมทางเชื้อชาติว่าเป็นแคมเปญที่ "ไร้ความปรานีเพื่อลบล้างประวัติศาสตร์ของเรา ทำลายชื่อเสียงของวีรบุรุษของเรา ลบล้างค่านิยมอันดีของเรา และปลูกฝังความคิดผิด ๆให้ลูกหลานของเรา"
"เราจะไม่นิ่งเงียบ" เขากล่าว
- คำสั่งระงับวีซ่า-กรีนการ์ดของโดนัลด์ ทรัมป์ อาจกระทบแรงงานต่างชาติหลายแสนคน
- ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ขอศาลฎีกาพิจารณายกเลิกกฎหมายประกันสุขภาพ 'โอบามาแคร์' จากสมัย ปธน.โอบามา
ประธานาธิบดีถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักต่อการจัดการกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในประเทศสหรัฐฯ ได้ทำการอ้างถึงโรคนี้น้อยมากทั้ง ๆ ที่โรคไวรัสชนิดนี้ได้คร่าชีวิตของชาวอเมริกันไปเกือบ 130,000 คน
สหรัฐฯ ทำลายสถิติการติดเชื้อไวรัสโคโรนามากที่สุดภายในวันเดียวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่า 2.5 ล้านคน ซึ่งมากกว่าชาติใด ๆ ในโลก
การสวมใส่หน้ากากและการเว้นระยะทางสังคมไม่ถือว่าเป็นข้อบังคับสำหรับงานที่จัดขึ้นที่เขารัชมอร์ แม้จะมีคำเตือนจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขก็ตาม
สถานที่จัดงานก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นความขัดแย้ง ที่เขารัชมอร์มีใบหน้าแกะสลักของประธานาธิบดีสี่คนในสหรัฐอเมริกา สองคนในนั้นก็คือจอร์จ วอชิงตันและทมัส เจฟเฟอร์สันที่เคยเป็นเจ้าของทาสหลายคน นอกจากนี้เขารัชมอร์ยังตั้งอยู่บนที่ดินที่นำมาจากชนพื้นเมืองเผ่าลาโกต้า ซู (Lakota Sioux) โดยรัฐบาลสหรัฐในช่วงปี 1800
ทรัมป์พูดอะไรอีก
เขากล่าวถึงเขารัชมอร์ว่าอนุสรณ์สถานที่สำคัญในเซาท์ ดาโคตาแห่งนี้จะ "ยืนอยู่ตลอดกาลในฐานะอนุสรณ์สถานที่อุทิศให้แก่บรรพบุรุษและเพื่อเสรีภาพของเรา"
"อนุสรณ์สถานแห่งนี้จะไม่ถูกลบล้าง วีรบุรุษเหล่านี้จะไม่มีวันสูญสิ้น" เขาบอกกับฝูงชนที่ให้กำลังใจ
ประธานาธิบดีเสริมว่าคนที่มุ่งเป้าโจมตีไปที่ "สัญลักษณ์ของมรดกแห่งชาติ" จะต้องเผชิญกับ "โทษทางกฎหมายสูงสุด" เขากล่าวว่าผู้ที่สร้างความเสียหายให้กับรูปปั้นอาจถูกตัดสินจำคุก 10 ปี ซึ่งเป็นคำสั่งล่าสุดที่เขาเพิ่งเซ็นอนุมัติเพื่อการปกป้องอนุสาวรีย์ต่าง ๆ ทั่วประเทศ
มีการจัดแสดงดอกไม้ไฟประกอบเพลงในงานวันก่อนวันชาติของสหรัฐฯ โดยมีเข้าชมประมาณ 7,500 คน
- ทวิตเตอร์ซ่อนและขึ้นป้ายเตือนข้อความของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่ามีเนื้อหาเชิดชูความรุนแรง
- โอบามาวิจารณ์การรับมือโควิด-19 ของสหรัฐฯว่า "หายนะที่โกลาหลอย่างแท้จริง"
การจัดการแสดงดอกไม้ไฟที่นี่นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษ หลังจากที่ถูกสั่งห้ามไม่ให้มีการจุดดอกไม้ไฟในที่ดังกล่าวเพราะเกรงว่าจะก่อให้เกิดไฟป่าจากใบไม้และกิ่งไม่แห้งที่มีอยู่รอบอนุสรณ์สถาน
คริสตี้ โนเอม ผู้ว่าการรัฐเซาท์ดาโคตาจากพรรครีพับลิกันกล่าวต้อนรับผู้มาร่วมงาน เธอเห็นด้วยประธานาธิบดี และกล่าวโทษผู้ประท้วงว่าพวกเขา "พยายามลบบทเรียนจากประวัติศาสตร์"
"นี่เป็นการกระทำที่จงใจทำลายชื่อเสียงของผู้ก่อตั้งอเมริกา" เธอกล่าว
การรวมตัวกันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเป็นงานรวมตัวครั้งล่าสุดที่ประธานาธิบดีทรัมป์จัดขึ้นในช่วงการระบาดของโรคไวรัสโคโรนา ในขณะที่เขาพยายามเพิ่มคะแนนนิยมจากกลุ่มผู้สนับสนุนของเขาก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรับฯที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน
ชนพื้นเมืองอเมริกันคิดอย่างไรกับเหตุการณ์นี้
กลุ่มชนพื้นเมืองอเมริกันวิพากษ์วิจารณ์การมาเยือนของนายทรัมป์ว่าก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพ และการเฉลิมฉลองอิสรภาพของสหรัฐฯในพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับพวกเขา
ชาวอเมริกันพื้นเมืองจำนวนมากไม่ฉลองวันประกาศอิสรภาพเพราะพวกเขาเชื่อมโยงมันเข้ากับการล่าอาณานิคมของเผ่าของพวกเขาและการสูญเสียเสรีภาพทางวัฒนธรรมของพวกเขา
อนุสรณ์สถานแห่งชาติเขารัชมอร์ถูกแกะสลักระหว่างปี 1927 และ 1941 แต่อนุสรณ์สถานตั้งอยู่บนเขาแบล็คฮิลส์ในรัฐเซาท์ดาโคตา ซึ่งถูกนำมาจากชนเผ่าลาโกต้า ซู ในช่วงศตวรรษก่อนหน้า
"ประธานาธิบดีกำลังทำให้สมาชิกชนเผ่าของเราตกอยู่ในความเสี่ยงจากการสร้างภาพออกสื่อในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งของเรา" ฮาโรลด์ เฟรเซีย ประธานชนเผ่าไชแอน ริเวอร์ ซู (Cheyenne River Sioux) กล่าว
ก่อนหน้าที่จะมีงาน กลุ่มผู้ประท้วงที่ส่วนใหญ่เป็นชาวอเมริกันพื้นเมืองรวมตัวกันปิดถนนสายหลักที่จะไปยังอนุสรณ์สถานด้วยรถตู้สีขาวซึ่งนำไปสู่ความตึงเครียดกับกลุ่มตำรวจ
ในที่สุดกลุ่มผู้ประท้วงก็ถูกจัดการนำออกจากพื้นที่ถนนโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและกองกำลังทหารพิทักษ์มาตุถูมิที่ใช้ระเบิดควันและสเปรย์พริกไทย รายงานข่าวในท้องถิ่นกล่าว
รถตู้ถูกลากออกไปและผู้ประท้วงหลายคนถูกจับกุมหลังจากที่ตำรวจประกาศว่าการปิดถนนเป็น "การชุมนุมที่ผิดกฎหมาย" หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นอาร์กัส ลีดเดอร์ รายงาน
"การมา" - Google News
July 04, 2020 at 04:48PM
https://ift.tt/38xXmuf
โดนัลด์ ทรัมป์ ต่อต้านการ "คว่ำบาตรคนดัง" พร้อมประณามผู้ทำลายรูปปั้นผู้นำว่าเป็น "มวลชนที่เกรี้ยวกราด" - บีบีซีไทย
"การมา" - Google News
https://ift.tt/3cm7t5w
Home To Blog
No comments:
Post a Comment