Pages

Sunday, August 30, 2020

เรือดำน้ำจีน: รัฐบาลชะลอการจัดซื้อเรือดำน้ำ 22,500 ล้านบาท โยนกองทัพเรือเจรจากับจีน - บีบีซีไทย

buahasema.blogspot.com

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

รัฐบาลชะลอการจัดซื้อเรือดำน้ำจากประเทศจีน 2 ลำ มูลค่า 22,500 ล้านบาท หลังจาก พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม หารือเป็นการภายในกับกองทัพเรือ (ทร.) เพื่อนำงบไปดูแลปัญหาปากท้องประชาชน หลังเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ท่าทีของ พล.อ. ประยุทธ์ ถูกแถลงผ่านโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในระหว่างที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 กำลังประชุมกันเพื่อพิจารณางบประมาณของหน่วยงานต่าง ๆ ในจำนวนนี้มีงบของ ทร. ที่เสนอตั้งงบจำนวน 3,375 ล้านบาท เพื่อจัดหาเรือดำน้ำเพิ่มอีก 2 ลำ พร้อมกำหนดระยะเวลาชำระเงิน 7 ปี

"พล.อ. ประยุทธ์ ได้มีการพูดคุยเป็นการภายในกับกระทรวงกลาโหม โดยเฉพาะกองทัพเรือ ได้ข้อสรุปว่าขอให้กองทัพเรือพิจารณาชะลอการจัดซื้อเรือดำน้ำในลำที่ 2 และ 3 ไปก่อน เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความเข้าใจของนายกฯ ที่เห็นถึงความห่วงใยของประชาชน สังคม และ กมธ. ที่จะต้องนำงบประมาณไปใช้ในส่วนอื่น ไม่ว่าจะเป็นการดูแลปากท้องประชาชน และเรื่องอื่น ๆ ที่คิดว่าเหมาะสม" นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงที่ทำเนียบรัฐบาล

ส่วนการเจรจากับทางจีนเพิ่มเติมในการจะชะลอหรือเลื่อนการจัดซื้อไปอีก 1 ปี จะมีผลออกมาอย่างไร ทาง ทร. จะเป็นผู้ให้รายละเอียดเรื่องนี้ ทั้งนี้โฆษกประจำสำนักนายกฯ อยากให้ประชาชนเข้าใจบทบาทของกองทัพที่ต้องการดูแลประชาชน และทรัพยากรของประเทศไทยให้ดีที่สุด และรัฐบาลจะพยายามดูแลทุกภาคส่วน ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง เพื่อให้ทั้งหมดมีความสอดคล้อง ประชาชนมีความสบายใจเกี่ยวกับการบริหารราชการของรัฐบาลว่าเป็นไปด้วยความโปร่งใสและยุติธรรม

นายเอกชัยยืนยันด้วยว่า การจัดซื้อเรือดำน้ำนั้น เป็นการดำเนินการแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ดำเนินการมาตั้งแต่การจัดซื้อลำที่ 1 แล้ว ส่วนลำที่ 2 และ 3 เป็นเรื่องที่จะมีการส่งมอบต่อเนื่องเท่านั้นเอง

navy

แม้มีคำสั่งจากนายกฯ ให้ชะลอโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำออกไปก่อน แต่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ยังประกาศเดินหน้าคัดค้านโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำต่อไป โดยเรียกร้องให้ ทร. ในฐานะหน่วยรับงบประมาณถอนเรื่องนี้ออกไป

นายยุทธพงศ์ ในฐานะรองประธานอนุ กมธ. ครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน คือผู้ออกมาเปิดประเด็นเรื่องความไม่ชอบมาพากลในการจัดทำสัญญาซื้อเรือดำน้ำแบบรัฐต่อรัฐ หรือ "จีทูจีเก๊" พร้อมวิจารณ์เรื่องความไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ในช่วงที่ประเทศกำลังเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจ

เขายังเป็นผู้เปิดเผยมติอนุ กมธ. เมื่อ 24 ส.ค. ที่ออกมาแบบเฉียดฉิว 5-4 ให้เดินหน้าโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำต่อไป โดยอ้างว่านายสุพล ฟองงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานอนุ กมธ. ครุภัณฑ์ฯ ได้ร่วมลงมติชี้ขาดหลังได้รับโทรศัพท์จาก "นายพล" รายหนึ่ง ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมอย่างกว้างขวาง ร้อนถึงนายสุพลต้องออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวปฏิเสธใบสั่งผ่านสายโทรศัพท์

เช่นเดียวกับนายพลสังกัด ทร. ที่แถลงตอบโต้พรรคฝ่ายค้านให้หยุดเล่นการเมืองแบบเก่า ๆ และขอ "อย่านำกองทัพเรือไปสร้างความเกลียดชังอย่างผิด ๆ" และ "จีทูจีปลอมคือการกล่าวเท็จ ให้ข้อมูลผิด ครม. อนุมัติให้ ผบ.ทร.เป็นผู้แทนของไทยไปลงนาม"

นายยุทธพงศ์

การประชุม กมธ.งบประมาณ 2564 เริ่มต้นในเวลา 09.00 น. ของวันนี้ (31 ส.ค.) แต่วาระจัดซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ จะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมช่วงบ่าย โดยมี ทร. เข้าชี้แจงอีกครั้ง ทว่ายังไม่ชัดเจนว่าจะเข้าชี้แจงเป็นคณะบุคคลหรือทำเป็นเอกสาร

นายสันติ พร้อมพัฒน์ ประธาน กมธ.งบประมาณ 2564 กล่าวขอบคุณรัฐบาลที่ออกมาแสดงท่าทีผ่อนคลายในการจัดซื้อเรือดำน้ำ เพราะขณะนี้ภัยโควิด-19 ยังไม่ชัดเจนว่าจะจัดการได้เมื่อใด โดย กมธ. จะนำข้อมูลด้านความมั่นคง ผลกระทบทางเศรษฐกิจ รวมถึงความกังวลของ ทร. มาพิจารณาร่วมกันโดยจะให้ความสำคัญในทุกมิติ

ประธาน กมธ.งบประมาณ 2564 กล่าวว่า เท่าที่คุยกับ กมธ. ทุกคนเห็นด้วยกับความจำเป็นที่ประเทศไทยต้องมีเรือดำน้ำเพื่อเฝ้าดูแลด้านความมั่นคงทางทะเล และทรัพยากรเป็นเสมือนกล้องวงจรปิด ซึ่งประเทศเพื่อนบ้านส่วนใหญ่มีหมดแล้ว ยกเว้นประเทศลาวและกัมพูชา มั่นใจว่าประชาชนจะเข้าใจถึงความจำเป็น แต่ด้วยความปรารถนาดีของ ทร. เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ช่วงเดือน ก.ค. รุนแรง จึงให้ความร่วมมือรัฐบาลคืนเงินที่ยังไม่ได้ใช้ไปก่อน โดยรัฐบาลจะตั้งงบประมาณคืนให้ในปีงบประมาณ 2564 แต่สถานการณ์โควิด-19 ยังไม่แน่นอนและมีความจำเป็นด้านเศรษฐกิจที่ต้องผ่อนคลายเงินค่างวดจ่ายเรือดำน้ำอีกครั้ง

ในการคว่ำโครงการนี้ต้องใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของ กมธ. หรือ 37 จาก 72 เสียง โดยในจำนวนนี้เป็นเสียงรัฐบาล 48 เสียง และฝ่ายค้าน 24 เสียง

ก่อนหน้านี้ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่เป็น กมธ. จำนวน 7 คน ประกาศมติพรรคว่าจะร่วมลงมติ "ไม่เห็นชอบ" รายงานผลการพิจารณาของคณะอนุ กมธ. ครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน ที่มีนายสุพล ฟองงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นประธาน เพราะต้องการให้รัฐบาลชะลอการจัดซื้อเรือดำน้ำออกไปก่อน

โครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ วงเงินงบประมาณ 22,500 ล้านบาท ที่ปรากฏในเอกสารงบประมาณปี 2564 เป็นส่วนหนึ่งของโครงการจัดหาเรือดำน้ำของ ทร. รวม 3 ลำ มูลค่า 36,000 ล้านบาท โดย ทร. ได้จัดซื้อเรือดำน้ำลำแรกไปเมื่อปี 2560 และจะเข้าประจำการในปี 2566 หลังทยอยชำระเงินในปี 2560-2566 ส่วนอีก 2 ลำ มีแผนทยอยชำระปี 2564-2570 หลังถูกเรียกงบปี 2563 คืนไป 3,375 ล้านบาทเพื่อนำไปแก้ไขปัญหาโควิด-19 มาถึงปีงบประมาณ 2564 จึงขอตั้งงบเท่าเดิมที่ 3,375 ล้านบาท

Let's block ads! (Why?)



"การมา" - Google News
August 31, 2020 at 11:52AM
https://ift.tt/32I0e55

เรือดำน้ำจีน: รัฐบาลชะลอการจัดซื้อเรือดำน้ำ 22,500 ล้านบาท โยนกองทัพเรือเจรจากับจีน - บีบีซีไทย
"การมา" - Google News
https://ift.tt/3cm7t5w
Home To Blog

No comments:

Post a Comment