หลังจากที่ตกเป็นรองค่ายรถอื่นในกลุ่ม เอสยูวี บี-เซ็คเม้นต์ มานานถึงคราวที่โตโยต้าได้ปรับกลยุทธ์เพื่อแก้เกมด้วยการมาถึงของ “โตโยต้า โคโรลล่า ครอส” ผู้ซึ่งขอเขยิบตัวขึ้นไปเป็นรถที่คลาสใหญ่ขึ้นอีกสเต็ป ด้วยมิติตัวถังที่ใหญ่ขึ้นอีกขั้น การมาถึงของรถรุ่นใหม่แม้จะไม่ได้ทันใจแต่มาช้ายังดีกว่าไม่มา เพราะรู้ดีว่าตลาดเอสยูวี สไตล์ครอสโอเวอร์คือกระแสหลักของความนิยมของคนรุ่นใหม่ไปอีกหลายปี ไม่ต้องกลัวว่ากระแสจะมาไวไปไวและตลาดยังไม่วาย!
เดิมในตลาดบี-เซ็คเม้นต์ นี้โตโยต้า มีรุ่นซี-เอชอาร์ ครอสโอเวอร์สไตล์โฉบเฉี่ยวเป็นรถที่เป็นตัวแทนหนึ่งเดียว แม้ในยกแรกจะรูปลักษณ์ที่หวือหวาสไตล์สปอร์ต สร้างเสียงฮือฮา แต่เมื่อต้องยืนระยะยาวกลับไม่สามารถทำได้เท่ากับคู่แข่งร่วมสัญชาติ จึงทำให้โตโยต้าต้องกลับไปพลิกตำราวิทยายุทธ์กันใหม่ เพื่อแก้หมากกลนี้ กลยุทธ์ “ใหญ่ไว้ก่อนพ่อสอนไว้” ที่ใช้ได้ผลมาตลอดถูกงัดมาใช้ จึงทำให้ “โตโยต้า โคโรลล่า ครอส” ที่แม้จะใช้แพลตฟอร์มเดียวกับ ซี-เอชอาร์ แต่ได้รับการจัดการให้มีมิติความยาวตัวถังให้ใหญ่ และโอ่โถง โดยนำเอาบุคลิกหน้าตารุ่นพี่อย่าง “ราฟโฟร์” (RAV-4) ที่ไม่มีขายในบ้านเรามาใช้เป็นต้นแบบ แต่ก็ขัดเกลา ลบเหลี่ยมสันลง และแทนที่ด้วยเส้นโค้งและมัดกล้ามที่เป็นสามมิติ เล่นกับแสงได้อย่างงดงามเข้ามาแทน เรียกได้ว่า “ให้คะแนนงานออกแบบไปเลย 10 คะแนนเต็ม” เพราะผสมผสานความเคร่งขรึมจริงจังเข้ากับความกระชับทะมัดทะแมงได้อย่างกลมกล่อม
เข้ามาสู่ภายในกันบ้าง คันที่ได้ลองขับนั้นเป็นรุ่นที่ได้ห้องโดยสารเป็นสี “ดินแดง” มีเฉพาะในรุ่นไฮบริด พรีเมียม และไฮบริด พรีเมียม เซฟตี้ โดยจับคู่กับตัวถังสีโทนขาวดำคือสีเงิน สีขาว และสีดำ เท่านั้น ส่วนตัวถังสีอื่น ๆ จะได้ภายในเป็นสีดำ เมื่อได้สัมผัสพื้นที่ห้องโดยสารและห้องสัมภาระต้องยอมรับว่าประทับใจกับความโอ่โถงที่สัมผัสได้ โดยเฉพาะในส่วนของห้องสัมภาระที่มีเพดานสูง สามารถวางกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ในแบบวางตั้งได้สบาย และเท่าที่ดูสามารถใส่จักรยานแบบวางตั้ง (ถอดล้อหน้า แต่ไม่ต้องถอดหลักอาน) ได้สองคันสบาย ๆ ซึ่งในเรื่องห้องสัมภาระนั้นโตโยต้ายังมอบระบบอำนวยความสะดวก เปิดฝาท้ายผ่านเซ็นเซอร์ที่เปิดได้ด้วยการแกว่งเท้า หรือ Kick Activated เพื่อความสะดวกเวลาเรามีสัมภาระต้องหอบหิ้ว อีกจุดที่น่าสนใจคือประตูของที่นั่งแถวสองเปิดได้กว้างและได้รับการออกแบบช่องเปิดให้กว้าง เข้าไปนั่งเบาะแถวสองได้สะดวกมาก ไม่มีอาการหัวติดขอบประตู เรียกได้ว่าคุณพ่อสามารถอุ้มลูกที่หลับไปนอนบนเบาะหลังได้สบาย!
ส่วนด้านการขับขี่แม้รถโคโรลล่าครอสจะสูงกว่ารถทั่วไป แต่การควบคุมบังคับและการซับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนนนั้น ทำได้น่าประทับใจ จากการทดสอบการทรงตัวด้วยการขับสลาลอม หรือการเปลี่ยนเลนกะทันหัน ทุกอย่างทำได้อย่างน่าประทับใจ เรียกได้ว่าเกินคำว่าปลอดภัย และเป็นรถที่ขับสนุกไม่แตกต่างไปจากที่ซี-เอชอาร์ เคยทำได้ดีนั่นเอง ทางโตโยต้าเซตน้ำหนักพวงมาลัย เบรก และคันเร่งมาได้ลงตัว สามารถควบคุมรถได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ด้านพละกำลังในรุ่นไฮบริดไม่สามารถเรียกได้ว่าจี๊ดจ๊าดเท่ารุ่นธรรมดา แรงดึงออกตัวของรถไฮบริดไม่หวือหวา อย่างไรก็ดีแต่เป็นแรงดึงที่ต่อเนื่องจากแรงบิดที่มาในรอบต่ำของมอเตอร์ไฟฟ้า แม้ในสนามทดสอบไม่สามารถทำความเร็วเกิน 110 กม./ชม. ได้แต่ก็รู้สึกว่าการขับขี่รถรุ่นนี้แม้จะไม่โลดโผนแต่ก็ไม่เป็นไก่อ่อนแน่นอน
จุดสำคัญที่ทางโตโยต้าแก้ไขเพิ่มเติมจากรุ่นซี-เอชอาร์ และอัลติส ก็คือเรื่องเสียงรบกวนจากยางรถยนต์บดพื้นถนน รถรุ่นใหม่นี้เพิ่มวัสดุกันเสียงเข้าไปมากพอสมควร เสียงอื้ออึงของยางรถยนต์หายไปแล้ว นับเป็นนิมิตหมายที่ดี เพราะโคโรลล่า ครอส จับกลุ่มเป้าหมายครอบครัวคนรุ่นใหม่ ความเงียบของห้องโดยสารคือหัวใจของความสุขในการเดินทาง ถ้าคุณมีครอบครัว และรักการเดินทาง รถคันนี้ตอบโจทย์แน่นอน!.
--------------------------------------
ภัทรกิติ์ โกมลกิติ.
"การมา" - Google News
July 26, 2020 at 10:00AM
https://ift.tt/2WVZg3j
'โคโรลล่ำ ครอส' หมัดน็อกจำกโตโยต้ำ - เดลีนีวส์
"การมา" - Google News
https://ift.tt/3cm7t5w
Home To Blog
No comments:
Post a Comment